วิวาทะเดือด”มาเลย์-สิงคโปร์”หลังยกเลิกรถไฟความเร็วสูง

626

 

สวัสดีครับพบกันอีกเช่นเคยกับช่อง 1one.asia มาติดตาม ปฏิกริยาของชาวมาเลเซียและชาวสิงคโปร์ กันบ้าง หลังจากที่รัฐบาลมาเลเซีย ได้ประกาศยกเลิกโครงการรถไฟความเร็วสูงกัวลาลัมเปอร์ – สิงคโปร์

โครงการนี้ ได้เซ็นสัญญากันไปเมื่อปี 2559 ซึ่งสิงคโปร์ หมายมั่นปั้นมือมากว่า จะเป็นโครงการที่จะมีส่วนช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้กับสิงคโปร์ และจะกลายเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะจากจีน

เพราะโครงการนี้ อยู่ในแนวเส้นทาง 1 แถบ 1 เส้นทาง หรือ ที่จีนเรียกว่า “อี้ไต้ อี้ลู่” เริ่มจากจีน เชื่อมเข้าลาว มาไทย เข้ามาเลซีย และไปจบที่สิงคโปร์ โดยรัฐบาลสิงคโปร์ได้เลือกสถานีจูร่งตะวันออก เป็นสถานีปลายทาง

และสิงคโปร์ได้ลงทุนโครงการทุนโครงการนี้อย่างเต็มที่ แต่เมื่อโครงการต้องมายกเลิก จึงให้ทั้งรัฐบาลและคนสิงคโปร์ รู้สึกผิดหวังอย่างแรง โดยเฉพาะนักธุรกิจที่ไปกว้านซื้ออสังหาริมทรัพย์ในย่านนี้ไว้แล้ว เมื่อออกมารูปนี้จึงทำให้ได้รับผลกระทบอย่างมาก ในมาเลเซียเอง ก็มีนักลงทุนส่วนหนึ่ง ที่ลงทุนไปกว้านซื้อที่ในแนวเส้นทางรถไฟ เมื่อผลออกมาอย่างนี้ ก็ได้รับผลกระทบไม่แพ้กัน

ดังนั้นจึงไม่แปลก หลังจากมีข่าวนี้ออกมาทำให้เกิดความไม่พอใจของ 2 ชาติ ที่โต้กันไปมา ในขณะเดียวกันชาวมาเลเซีย บางส่วนได้แสดงความไม่พอใจที่รัฐบาลยกเลิกโครงการนี้ และบางส่วนก็ไม่พอใจที่รัฐบาลต้องไปจ่ายค่าชดเชยให้สิงคโปร์ ทั้งที่ในขณะนี้เศรษฐกิจของประเทศกำลังได้รับผลกระทบจากโควิด-19 เรื่องนี้น่าสนใจไปติดตามกันครับ

ความเห็นแรกเป็นความเห็นชาวมาเลเซีย แสดงความเห็นไว้ในเพจของมาเลเซีย ว่า ถึงเวลาที่จะแสดงให้สิงคโปร์เห็นว่าพวกเขาไม่สามารถได้สิ่งที่พวกเขาต้องการได้เสมอ.. หากไม่มีมาเลเซียพวกเขาจะสูญเสียไปครึ่งหนึ่ง… ฮ่าๆ.. มันเป็นความจริงที่รุนแรง
ความเห็นนี้ ทำให้ชาวสิงคโปร์ ฉุนกึก และโพสต์ตอบโต้กว่า เอ่อมาเลเซียเป็นคนยกเลิกโครงการ ไม่ใช่ความผิดของสิงคโปร์ ในสัญญาคุณต้องจ่ายค่าชดเชยหากคุณยกเลิกโครงการ
ความเห็นชาวสิงคโปร์คนต่อมา แสดงความเห็นว่า ความจริงที่รุนแรงคือรัฐบาลของคุณลงนามในข้อตกลงและรัฐบาลของคุณผิดข้อตกลง แค่จ่ายค่าปรับและหยุดเสียเวลาของทุกคน
ชาวสิงคโปร์ คนต่อมา บอกว่า กรุณายอมรับข้อเท็จจริงของคุณให้ถูกต้องก่อนแสดงความคิดเห็น เพียงแค่อ้าปากของคุณแสดงความโง่เขลาของคุณออกมา

นอกจากนี้ยังมีความเห็นของชาวมาเลเซีย ในเพจของมาเลเซีย ได้แสดงความ เช่น
-ไม่ทําอะไรและสิงคโปร์ได้เงินล้าน ตอนนี้เรารู้แล้วว่าทําไมพวกเขาถึงประสบความสําเร็จมากกว่าเรา
-เสียตังค์กันหมด ตอนนี้มันเป็นความเจ็บปวด สําหรับชาวมาเลเซียทุกคน
– RM จ่าย 310 ล้าน ริงกิตให้กับรัฐบาล SG แทนที่จะช่วยชาวมาเลเซียที่ตกงานระหว่างการระบาด
-สิงคโปร์กําลังหัวเราะ
-ไม่อยากจะพูดถึงราคาอสังหาริมทรัพย์ที่ได้รับผลกระทบจากโครงการรถไฟความเร็วสูง
-มันไม่มีเหตุผลที่เราจ่ายเพื่อผลประโยชน์ของประเทศอื่นๆ
-โครงการนี้ไม่ได้ให้ความสําคัญกับสิ่งที่ควรทําในตอนนี้ ในมุมมองที่เรายังคงมีหนี้สินในประเทศสูงอยู่

ส่วนในโซเชียลของสิงคโปร์ ก็ได้แสดงความเห็นอย่างเดือดเช่นกัน เช่น

-โครงการจะได้รับการฟื้นฟู เนื่องจากมีความสําคัญ สําหรับทั้งสองประเทศในอนาคต
แต่ความเห็นนี้ มีผู้เข้ามาโต้แย้งว่า นรก ไม่!! จะไม่ทําอีกแล้ว… ความร่วมมือที่เป็นไปได้คือระหว่าง sg และ johor เท่านั้น เนื่องจากความสัมพันธ์ของเรากับสุลต่าน
จากนั้นก็มีผู้เข้ามาเสริมต่ออีกว่า มันเป็นโครงการที่น่ารังเกียจ
ขาวสิงคโปร์คนต่อมา ได้แสดงความเห็นว่า มันเป็นการถอยหลังอย่างน้อยทศวรรษสําหรับทั้งสองประเทศ รถไฟความเร็วสูงเป็นกุญแจสู่ภูมิทัศน์การขนส่งในศตวรรษที่ 21 และในประเทศไทย จะเปิดเป็นศูนย์กลางที่สําคัญของสถานีกลางบางซื่อ และพร้อมเปิดในปี 2564 พร้อมกันนี้ได้โพสต์ภาพสถานีกลางบางซื่อของไทยโชว์ด้วย
ชาวสิงคโปร์ คนต่อมาแสดงความเห็นว่า สิงคโปร์ต้องจดจําประวัติศาสตร์ไว้เสมอ! เกิดอะไรขึ้นในปี 2508 เมื่อมาเลเซียเตะสิงคโปร์ออกมา? ปี 2563 อีกครั้งเตะเราออกจากโครงการ
คนต่อมาบอกว่า บอกตามตรงไม่มีอะไรใหม่ที่มาจาก Msia ฉันเชื่อว่ารัฐบาลของเรารู้สไตล์ของพวกเขาเกี่ยวกับสัญญาที่ผิดบ่อยๆและจะมีแผนสํารองอยู่เสมอ
ชาวสิงคโปร์คนต่อมา บอกว่า มันมีไว้เพื่อล้มเหลวตั้งแต่เริ่มต้น
ชาวสิงโปร์คนต่อมา แสดงความเห็นว่า ดีค่ะ ช่วยชาวสิงคโปร์จากการตกงานของเรา ถ้าผ่าน ‘ ชาวมาเลเซียจํานวนมากสามารถเดินทางไปสิงคโปร์ได้ง่ายขึ้นและขโมยงานของเรา
ชาวสิงคโปร์คนต่อมา แสดงความเห็นว่า ราคาอสังหาริมทรัพย์ใน Jurong East เพิ่มขึ้นมากตั้งแต่ข่าว HSR ในปี 2559 โชคดีแก่เจ้าของบ้านที่ขายบ้านของพวกเขาก่อนหน้านี้
ชาวสิงคโปร์คนต่อมาแสดงความเห็นว่า เราจะได้คืนเงิน 250 ล้านดอลลาร์ที่เราใช้ไปหรือไม่? (อันนี้ก็คงหมายงบประมาณของรัฐบาลสิงคโปร์ในการเตรียมการโครงการนี้)
ความเห็นต่อมา แสดงความเห็นว่า พวกเขามีตึกสูงสองตึกใน Sg เพียงแค่เอาคืนจากพวกเขาเป็นค่าชดเชยแก้ปัญหา
ความเห็นต่อมา บอกว่า จ่ายหรือไม่จ่าย? ดูเหมือนว่าพวกเขาจะลากชดเชยจนกว่าพวกเขาจะมีเงิน
และชาวสิงคโปร์คนสุดท้าย แสดงความเห็นว่า ใครอยากจะลงทุนในประเทศของคุณ ถ้าคุณไม่ให้เกียรติอะไรเลย

ความเหล่านี้เป็นแค่ความเห็นของคนกลุ่มหนึ่ง ไม่ได้เป็นความเห็นของคนส่วนใหญ่ และข้อมูลเหล่านี้แค่รู้เขารู้เราเท่านั้น อย่างไรทั้ง 2 ประเทศเป็นเพื่อนบ้านอาเซียน ซึ่งต้องใจช่วยในการพัฒนาด้วยกัน โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลังต่อไป

หากเพื่อนๆ เห็นว่า เรื่องนี้มีประโยชน์ รบกวนกดติดตาม กดถูกใจ และกดแชร์ด้วยครับ