วิกฤติลาวหนักอึ้ง”ดร.พันคำ”ลาออกนายกฯลาว

657

ไปติดตามสถานการณ์การเมืองในสปป.ลาว ล่าสุด ดร.พันคำ วิภาวัน ได้ลาออกจากนายกฯสปป.ลาว ระบุว่า ไม่สามารถแบกรับภาระอันหนักอึ้งที่ประเทศกำลังเผชิญอยู่ได้อีกต่อไป จึงขอเกษียณอายุก่อนกำหนด ด้านสภาแห่งชาติลาว ได้เลือก ดร.สอนไซ สีพันดอน นั่งนายกฯคนใหม่แทน เรื่องนี้น่าสนใจไปติดตามกันครับ

30 ธันวาคม 2565 สำนักข่าว laotiantimes รายงานว่า ดร.สอนไซ สีพันดอน (Sonexay Siphandone) ได้รับเลือกเป็นนายกรัฐมนตรีของลาวหลังจากได้รับคะแนนเสียงเกือบ 100% จากสภาแห่งชาติลาว

ผลการลงคะแนนเสียงโดยสมาชิกสภาแห่งชาติลาว ได้รับการประกาศในวันนี้ระหว่างการถ่ายทอดสดการประชุมสภาแห่งชาติ

ในการกล่าวปราศรัยต่อสภาแห่งชาติลาว ดร.สอนไซ สีพันดอน กล่าวขอบคุณสมาชิกที่ให้การสนับสนุนและไว้วางใจ โดยกล่าวว่ารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับเลือกเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของลาว

 

ดร.สอนไซ สีพันดอน (Sonexay Siphandone) ได้รับเลือกเป็นนายกรัฐมนตรีของลาวคนใหม่

 

พร้อมระบุว่า ตนเข้าใจอย่างลึกซึ้งว่านี่จะเป็นบทบาทที่ยากและท้าทาย ทำให้ตนต้องรับตำแหน่งผู้นำของรัฐบาลที่ 9 ของลาว ตลอดจนการจัดการ การปกป้อง และพัฒนาประเทศของเรา

และว่า สัญญาว่าจะทำหน้าที่อย่างเต็มที่อย่างเต็มกำลังความสามารถตามรัฐธรรมนูญและกฎหมายของ สปป.ลาว

ดร.สอนไซ สีพันดอน ยังชื่นชมความพยายามในการทำงานของนายกรัฐมนตรี ดร.พันคำ วิพาวัน (Phankham Viphavanh)

ดร.พันคำ วิภาวัน นายกรัฐมนตรี ซึ่งได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งเมื่อวันที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2564 ได้กล่าวสุนทรพจน์ต่อสภาแห่งชาติลาว โดยกล่าวถึงความยากลำบากต่างๆ ในระหว่างดำรงตำแหน่ง รวมทั้งการแพร่ระบาดของโควิด-19 และภาวะเศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลก ซึ่งส่งผลให้สุขภาพของเขาทรุดโทรมลง และว่า ตนเองอายุ 72 ปีแล้ว สุขภาพไม่แข็งแรงแล้ว

ด้วยเหตุนี้ รู้สึกว่าไม่สามารถแบกรับภาระอันหนักอึ้งที่ประเทศของเรากำลังเผชิญอยู่ได้อีกต่อไป”

เขากล่าวเสริมว่า เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม คำขอของเขาในการเกษียณอายุก่อนกำหนดได้รับการอนุมัติจากประธานประเทศลาว ท่านทองลุน สีสุลิด แล้ว

ภายหลังการปราศรัย นายกรัฐมนตรี ดร.สอนไซ สีพันดอน (Sonexay Siphandone) ได้รับการมอบช่อดอกไม้จากประธานสภาแห่งชาติ นายไซสมพอน พรหมวิหาร และสมาชิกสภาแห่งชาติลาว ได้ยืนปรบมือ
ครับ ดร.สอนไซ สีพันดอน ลูกชายคำไต สีพันดอน อดีตนายกรัฐมนตรีและประธานประเทศลาว ซึ่งยังคงมากบารมีอยู่ในลาว ซึ่งเปลี่ยนม้ากลางศึกแบบนี้ยังไม่เคยเห็นมาก่อนในสปป.ลาว แสดงให้เห็นถึงสถานการณ์ด้านเศรษฐกิจของลาวที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักหนาเกินกว่าที่จะรับมือ จนทำให้นายกฯพันคำ ต้องลาออก ซึ่งต้องดูว่า นายกฯคนต่อไปจะแก้ไขปัญหานี้อย่างไรครับ