สร้างเร็วกว่าแผน!“อุโมงค์ทางเดินลอด” ถนนหน้าพระลาน-มหาราช

448

สวัสดีครับพบกันอีกเช่นเคยกับช่อง 1one.asia มาติดตามความคืบหน้า โครงการก่อสร้างอุโมงค์ทางเดินลอดถนนหน้าพระลาน และโครงการก่อสร้างอุโมงค์ทางเดินลอดถนนมหาราช เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร กันบ้างนะครับ

ล่าสุด ผู้บริหารสำนักการโยธา กรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า ขณะนี้โครงการก่อสร้างอุโมงค์ทางเดินลอดถนนหน้าพระลาน คืบหน้าร้อยละ 15 และโครงการก่อสร้างอุโมงค์ทางเดินลอดถนนมหาราชคืบหน้ากว่าร้อยละ 18 มั่นใจว่า ทั้ง 2 โครงการฯ สามารถดำเนินการก่อสร้างได้เร็วกว่าแผนงานที่กำหนดไว้ ซึ่งคาดหากแล้วเสร็จ ทั้ง 2 โครงการนี้ จะมีส่วนสำคัญรองรับนักท่องเที่ยว ทั้งไทยและชาวต่างชาติ ที่ปกติเข้าชมวัดพระศรีรัตนศาสดาราม และพระบรมมหาราชวัง ไม่ต่ำกว่า 35,000 คน ต่อวัน เรื่องนี้น่าสนใจไปติดตามกันครับ

10 ม.ค. 64 นายไทวุฒิ ขันแก้ว ผู้อำนวยการสำนักการโยธา กรุงเทพมหานคร พร้อมคณะ ได้ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าและประชุมวางแผนเร่งรัดโครงการก่อสร้างอุโมงค์ทางเดินลอดถนนหน้าพระลาน และโครงการก่อสร้างอุโมงค์ทางเดินลอดถนนมหาราช เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร โดยมีเจ้าหน้าที่ควบคุมงาน และผู้รับจ้างโครงการฯ ให้การต้อนรับและร่วมลงพื้นที่

โดยสำนักการโยธา กรุงเทพมหานคร ระบุว่า ความคืบหน้าล่าสุดปัจจุบันโครงการก่อสร้างอุโมงค์ทางเดินลอดถนนหน้าพระลาน ดำเนินการก่อสร้างไปแล้วโดยมีความคืบหน้าร้อยละ 15 และโครงการก่อสร้างอุโมงค์ทางเดินลอดถนนมหาราชคืบหน้าไปแล้วกว่าร้อยละ 18 ซึ่งทั้ง 2 โครงการฯ สามารถดำเนินการก่อสร้างได้เร็วกว่าแผนงานที่กำหนดไว้

อย่างไรก็ตาม ผู้อำนวยการสำนักการโยธา ยังคงผลักดันให้โครงการดังกล่าวเดินหน้าก่อสร้างให้แล้วเสร็จตามระยะเวลาที่กำหนดไว้ในสัญญา ซึ่งหลังจากการลงพื้นที่ตรวจสอบความเรียบร้อยหน้างานแล้วเสร็จ ผู้อำนวยการสำนักการโยธา ได้มีการประชุมวางแผนเร่งรัดงานก่อสร้างทั้ง 2 โครงการ

พร้อมทั้งสั่งการให้ผู้รับจ้าง เร่งรัดงานเสาเข็มเจาะ และงานขุดก่อสร้างโครงสร้างค้ำยันอย่าให้ล่าช้ากว่าแผนที่กำหนดไว้ รวมไปถึงให้เพิ่มมาตรการในการป้องกันผลกระทบจากการก่อสร้าง ทั้งต่อสิ่งปลูกสร้าง รวมถึงผลกระทบด้านมลภาวะที่อาจจะก่อให้เกิดฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5

และเพิ่มมาตรการความปลอดภัยบริเวณโดยรอบพื้นที่โครงการก่อสร้าง เพื่อป้องกันมิให้ส่งผลกระทบต่อประชาชน และกำชับให้เจ้าหน้าที่ควบคุมงาน ประสานผู้รับจ้างให้มีการตรวจสอบแรงงานอย่างเคร่งครัด ให้เป็นไปตามมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรค ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (covid-19) ที่กลับมาแพร่ระบาดหนักอยู่ในขณะนี้

สำหรับโครงการนี้ หากกรุงเทพมหานคร โดยสำนักการโยธาดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จ ก็จะสามารถอำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวในพื้นที่รอบเกาะรัตนโกสินทร์

ซึ่งปัจจุบันเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของประเทศ มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเข้าชมพระบรมมหาราชวัง วัดพระศรีรัตนศาสดาราม เป็นจำนวนมาก เฉลี่ยวันละไม่ต่ำกว่า 35,000 คน

อีกทั้งยังเป็นการช่วยลดผลกระทบด้านการจราจร เพิ่มความปลอดภัยในการสัญจรของประชาชนและนักท่องเที่ยว ช่วยจัดระเบียบให้เกิดความปลอดภัยในการสัญจร ไม่ต้องเดินข้ามถนน รวมถึงเป็นการปรับปรุงสภาพแวดล้อมของพื้นที่บริเวณสนามหลวงให้เป็นระเบียบเรียบร้อย และสวยงามสมกับเป็นสถานที่สำคัญของประเทศชาติ

สำหรับรายละเอียดโครงการ ประกอบด้วย 1.โครงการก่อสร้างอุโมงค์ทางเดินลอดถนนหน้าพระลาน จำนวน 2 จุด วงเงิน 945 ล้านบาท ระยะเวลาก่อสร้าง 540 วัน ได้แก่ อุโมงค์ทางเดินลอดหน้าพระลานจุดที่ 1 ระยะทาง 96 เมตร พื้นที่รวม 6,280 ตารางเมตร พร้อมห้องน้ำชาย 21 ห้อง ห้องน้ำหญิง 55 ห้อง โถงพักคอยและทางเดิน อาคารกองอำนวยการ

และอุโมงค์ทางเดินลอดถนนหน้าพระลาน จุดที่ 2 ระยะทาง 37 เมตรพื้นที่รวม 350 ตารางเมตร พร้อมงานก่อสร้างระบบสุขาภิบาล ระบบระบายน้ำระบบไฟแสงสว่าง ระบบระบายอากาศ และปรับอากาศ ระบบจราจรและงานปรับปรุงภูมิทัศน์ และงานอื่นที่เกี่ยวข้อง

2.โครงการก่อสร้างอุโมงค์ทางเดินลอดถนนมหาราช วงเงิน 180 ล้านบาท ระยะเวลาก่อสร้าง 360 วัน ระยะทาง 90 เมตร พื้นที่รวม 1,146 ตารางเมตรพร้อมห้องน้ำชาย 15 ห้อง ห้องน้ำหญิง 20 ห้อง โถงพักคอย ทางเดิน และงานก่อสร้างระบบสุขาภิบาล ระบบระบายน้ำระบบไฟแสงสว่าง ระบบระบายอากาศและปรับอากาศ ระบบจราจรและงานปรับปรุงภูมิทัศน์ และงานอื่นที่เกี่ยวข้อง

โครงการค่าก่อสร้างรวมทั้ง 2 โครงการอยู่ที่ 1,125 ล้านบาท โดยโครงการก่อสร้างอุโมงค์ทางเดินลอดถนนหน้าพระลาน ใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 540 วัน คาดว่าจะแล้วเสร็จต้นปี 2565 และโครงการที่ 2 โครงการอุโมงค์ลอดถนนมหาราช ใช้เวลาก่อสร้าง 360 วัน คาดว่าแล้วเสร็จปลายปี 2564

กรุงเทพ เป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวอันดับ 1 ของโลกติดต่อกันหลายปี การสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยว จะสร้างความประทับใจ และจูงในให้นักท่องเที่ยวกลับมาอีก พร้อมบอกปากต่อปาก โดยไม่ต้องเปลืองงบประมาณในการโปรโมทการท่องท่องเที่ยว

และการท่องเที่ยวนี้คือ จะเป็นเครื่องมือสำคัญ ในการฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังวิกฤติโควิด-19

ดังนั้น ก็ต้องเร่งจัดการกับต้นตอของโควิด-19 ระลอกนี้โดยเร็ว

นั่นคือ เจ้าที่ตำรวจบางคนและเจ้าหน้าที่กระทรวงมหาดไทยบางคน ที่ปล่อยให้มีการเปิดบ่อน ปล่อยใหมีการลักลอบข้ามแดน และลักลอบขนแรงงานต่างด้าว

หากนายกฯจัดการปัญหาเหล่านี้ ได้เร็วเท่าใด นั้น คือโอกาส ที่การท่องเที่ยว และเศรษฐไทย ฟื้นตัวก็มีมากขึ้นเท่านั้น และประชาชนจะได้หายใจโล่งจมูกกันซะที ครับ

หากเพื่อนๆเห็นว่า ข่าวนี้มีประโยชน์ รบกวรกดติดตาม กดถูกใจ และกดแชร์ ด้วยครับ

 

ติดดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่
Website https://www.1one.asia/
ช่องทาง Social Media
Facebook : https://www.facebook.com/1one2018asia
youtube:1one